หน้าแรก ข่าว ข่าวสังคม - โซเชียล งานข้าแล้ว ทนายเดชา ...
จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "อานนท์ รถทอง" ได้ออกมาโพสต์ภาพและเรื่องราวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวโดยได้ระบุข้อความว่า...
"ประกาศตามหาลูก เขยจ้า.
1. ความรู้ไม่ต้องเอาแค่อ่านออกเขียนได้ (ใบปริญญาไม่เอาเต็มข้างขวาบ้าน)
2. ขยันอดทนทำงาน ไม่ขี้เกียจ
3. ขี้เหนียวใช้เงินไม่เป็นชอบทำทุเรียน อยู่ที่ไหนเดี๋ยวเราจะไปขอคุณไม่ต้องมาขอเราเราจะไปขอเอ็นให้ทุนทำกิน 10,000,000 ไม่พอขอได้อีก 555"
โดยผู้โพสต์นั้น เป็นเจ้าของล้งหรือโกดังรับซื้อทุเรียนชื่อ ป๋านนท์ ป้าอร ภายในตลาดอวยชัย 3 ติดกับสถานีขนส่งรถทัวร์โดยสาร ชุมพร โดยนายอานนท์ เปิดเผยว่า เป็นจริงอย่างที่ประกาศเอาไว้จริง
ต่อมาวันที่ 6 มี.ค. ป๋านนท์ เปิดเผยว่า ขอประกาศยกเลิกการรับสมัครลูกเขยในวันที่ 1 เม.ย. นี้ หลังจากที่ตนได้ปรึกษาครอบครัวแล้ว เห็นว่าหากดำเนินการรับสมัครลูกเขตต่อไปจะเกิดผลเสียต่อธุรกิจมากไปกว่านี้ เนื่องจากทั้งวันต้องคอยรับโทรศัพท์คนที่จะมาสมัครจนไม่เป็นอันทำงาน ป๋านนท์ กล่าวอีกว่า อีกทั้ง ตอนแรกที่นัดผู้สมัครมาที่ตลาดเนินสูง จ.จันทบุรี นั้น หากว่าที่ลูกเขยเดินทางกันมาเป็นพันหรือเป็นแสนคน คาดว่าพื้นที่ไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากขนาดนั้น อาจทำให้กระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าคนอื่น เพราะพื้นที่ดังกล่าวรองรับได้แค่ 300 คน "ผมกลัวว่าถ้าลูกเขยมากันจำนวนมาก อาจเกิดการกระทบกระทั่งหรือทะเลาะเบาะแว้ง เพราะที่โพสต์ตอนแรก ตั้งใจว่าจะสื่อกันในกลุ่มคนขายทุเรียนว่าอยากได้ลูกเขยที่ขยัน เป็นคนดี แต่เรื่องกลับกระจายไปทั่วโซเชียล อย่างไรก็ตาม ที่บอกว่าจะให้เงิน 10 ล้าน ผมพูดจริง"
ล่าสุดนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ "ทนายคลายทุกข์" ได้ให้ความเห็นทางกฏหมาย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เสี่ยเจ้าของล้งทุเรียนที่ จ.ชุมพร ได้มาประกาศต่อสื่อมวลชน หาสามีให้ลูกสาวแสนสวย ก็มีชายหนุ่มและไม่หนุ่มจำนวนมากต่างสนใจที่จะไปเป็นลูกเขย แต่ปรากฏว่ามีคนสมัครเป็นหมื่นเป็นแสนแล้วตัวเองก็เดินสายออกทีวี ได้ชื่อเสียง มีพื้นที่ข่าว 3 วันติดต่อกัน แต่วันนี้ออกมาแถลงแล้วว่า ขอยกเลิกให้เป็นโมฆะและขอโทษสังคม ทำนองว่าคุยเล่นกันในกลุ่มเพื่อนแต่กลายเป็นข่าวใหญ่โตจนเกินควบคุมเพราะมีคนมาสมัครกันมากมาย ถามว่ากรณีนี้เทียบกับกรณี "พีช แผงแตก" หลอกว่ามีคนถูกหวยรางวัลที่ 1 ที่แผงตัวเองคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นกรณีนี้ใครที่ได้รับความเสียหายสามารถแจ้งความกับตำรวจได้ ซึ่งกรณีนี้อาจเข้าข่ายกฎหมายความผิดทางคอมพิวเตอร์ พรบ.เกี่ยวกับความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยทุจริต โดยหลอกลวง นำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลบิดเบือน ปลอม เท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เทียบกับคดี "พีช แผงแตก" ว่าตัวเองเป็นคนดี มีคนถูกรางวัลที่ 1 เก็บหวยรอให้เจ้าของเรื่องนี้ก็เหมือนกันเหมือนการโปรโมทสวนทุเรียนของตัวเองให้สวนทุเรียนของตัวเองโด่งดัง โดยใจจริงไม่ได้มีเจตนายกลูกสาวให้กับใครเลย ถ้าใครได้รับความเสียหายก็ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดูว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีเรื่องเกี่ยวกับเรื่องความผิดทางคอมพิวเตอร์หรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ดี ฝากเตือนผู้ที่อยากดังทางโซเชียลทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มีเจตนากระทำการเช่นนั้นจริง อาจมีความผิดกฎหมายทางคอมพิวเตอร์ จำโทษ 5 ปี
คลิป
ขอบคุณคลิป และที่มาจาก Dailynews Online
No comments: